"กลอย" (Wild yam)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dioscorea hispida Dennst.
ชื่อพ้อง D. hirsuta Blume
วงศ์ Dioscoreaceae
|
|
ชื่ออื่น
|
มันกลอย (ทั่วไป) กลอยข้าวเหนียว กลอยหัวเหนียว (นครราชสีมา) กลอยนก กอย (ภาคเหนือ)
|
ต้น
|
เป็นไม้เถาเลื้อยพันต้นไม้อื่น ไม่มีมือเกาะลำต้นมีหนามเล็กๆ กระจายทั่วไปและมีขนนุ่มๆ สีขาวปกคลุม มีหัวอยู่ใต้ดินลักษณะทรงกลมรี มีรากเล็กๆ กระจายทั่วทั้งหัว มี 3-5 หัวต่อต้น เปลือกหัวบางสีน้ำตาลออกเหลือง เนื้อในหัวมี 2 ชนิด คือ สีขาว (กลอยหัวเหนียว) และสีครีม (กลอยไข่,กลอยเหลือง)
|
ใบ
|
เป็นใบประกอบก้านใบยาว 10-15 ซม. มี ใบย่อย 3 ใบ รูปรีปลายใบแหลมขอบใบเรียบเส้นใบนูน ผิวใบสากมือ มีขนนุ่มๆ ปกคลุม ความกว้างของใบ 3-5 ซม. ยาว 8-10 ซม.
|
ดอก
|
เป็นดอกช่อ ออกตามซอกใบ ก้านดอกเดี่ยวยาวห้อยย้อยลงมา มีดอกเล็กๆ ติดบนก้านดอกจำนวน 30-50 ดอก
|
ผล
|
คล้ายผลมะเฟืองมี 3 พู แต่ละพูมี 1 เม็ด เมื่อแก่แตกได้เอง
|
เมล็ด
|
ลักษณะกลมแบน มีปีกบางใสรอบเมล็ดช่วยในการปลิวตามลม
|
ฤดูกาลเก็บส่วนขยายพันธุ์
|
ฤดูหนาว
|
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต
|
ที่ดอนระบายน้ำดี และร่มรำไร
|
ทางอาหาร
|
หัวกลอยสามารถรับประทานได้ ใช้นึ่งกับข้างเหนียว ทำแกงบวด หรือทอด
ก่อนนำหัวกลอยมาทำอาหาร ต้องล้างพิษออกให้หมดก่อนโดยปอกเปลือก ล้างกับน้ำไหล
และแช่น้ำไว้ 1 คืน จึงจะนำมานึ่งหรือทอดได้
***กลอยเป็นพืชป่าที่อาจทำให้ผู้บริโภคที่ไม่เคยรับประทานกลอยมาก่อน เกิดอาการแพ้ได้
แม้ว่าจะทำการล้างกลอยมาอย่างดีแล้วก็ตาม...ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความต้านทานของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน
ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการรับประทานกลอย รวมทั้งถั่วทอดกลอยด้วย
กรณีได้รับพิษจากการรับประทานกลอย อาการจะเหมือนอาหารเป็นพิษทั่วไป พยายามดื่มน้ำมากๆ
เพื่อให้พิษนั้นเจือจางลง หลังจากนั้นให้รับประทานผงถ่านคาร์บอน ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
หรือดื่มน้ำสมุนไพรรางจืด เพื่อดูดซับสารพิษในระบบทางเดินอาหาร
ทั้งนี้อาจดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย เพื่อชดเชยน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป
ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดอาการขาดน้ำและอาจต้องอาศัยการให้น้ำเกลือช่วย***
|
|
ทางยา
|
หัวกลอย รสเบื่อเมา กัดเถาดานในท้อง หุงเป็นน้ำมันใส่แผลกัดฝ้ากัดหนอง
|
การรักษาอาการแพ้กลอย
ให้การรักษาตามอาการ ได้แก่
1. ให้ phenobarbital หรือ diazepam เพื่อป้องกันอาการชัก แต่ต้องระวังไม่ให้ในรายที่ขนาดของกลอยที่ได้รับนั้นทำให้เกิดอาการพิษที่ไปลดการเคลื่อนไหว (motor activity) หรือกดระบบประสาทส่วนกลางแล้ว ยาเหล่านี้อาจไปเสริมฤทธิ์แทนที่จะต้านฤทธิ์ของกลอย
2. หยุดหายใจ อาจแก้โดยใช้ neostigmine
แหล่งที่มา : http://www.rspg.thaigov.net/plants_data/use/toxic_42.htm
การรักษาด้วยสมุนไพร "รางจืด"
สรรพคุณรางจืดตามตำรายาไทยกล่าวไว้ว่า "รางจืดรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาเขียวถอนพิษไข้ ถอนพิษผิดสำแดงและพิษอื่นๆ ใช้แก้ร้อนใน กระหายน้ำ รักษาโรคหอบหืดเรื้อรัง และแก้ผื่นคันจากอาการแพ้ต่างๆ ใช้แก้พิษเบื่อเมาเนื่องจากเห็ดพิษ สารหนู หรือแม้ยาเบื่อประเภทยาสั่ง
อ่านต่อ >> http://www.launsin200.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=200548
ขั้นตอนการทำความสะอาด"กลอย" ที่ทางร้านรับซื้อมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต
กลอยที่ทางร้านซื้อมา จะเป็นกลอยที่เกษตรกรได้ผ่านกระบวนการทำความสะอาดมาแล้ว
จึงอยู่ในรูปของ "กลอยแผ่นบรรจุกระสอบ"
โดยทางร้านได้จัดซื้อมาจาก จ.ตาก ผ่านผู้จัดหากลอยเพียงรายเดียว (หมายเลขติดต่อ คุณป็อก : 086-209-5836)
เพื่อที่จะระบุที่มาของกลอยได้อย่างแน่ชัด
และเพื่อความปลอดภัยในเรื่องของสารพิษ
ทางร้านจึงต้องทำความสะอาดกลอยแผ่นนั้นอีกครั้ง โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1.แช่กลอยในน้ำสะอาด 30 นาที
(ข้อสังเกต : ถ้าน้ำมีสีขุ่น นั่นคือยังมีสารพิษอยู่)
2.ล้างด้วยน้ำสะอาด โดยให้น้ำไหลผ่าน
3.ล้างด้วยการแช่น้ำเกลือ 30 นาที
4.ล้างด้วยน้ำสะอาด โดยให้น้ำไหลผ่าน
5.นำมาผึ่งลมหรือแดดให้แห้ง แล้วจึงนำไปสับเป็นชิ้นเล็กๆ
สถานที่สำหรับล้างกลอย
สถานที่สำหรับจัดเก็บ "กลอยแผ่น"
ป้ายคำเตือนในการบริโภคถั่วทอดกลอยบริเวณหน้าร้าน